คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่รับเลี้ยงลูกชายจนได้ดีขนาดเป็นว่าที่แชมป์โอลิมปิก

371

พวกเราหลายคนเคยได้ยินได้ฟังเรื่องราวของการดูแลและฝึกสอนเหล่าบรรดาลูกๆ หรือบางคครั้งก็เป็นการฝึกสอนจากคุณครูกันมาบ้างแล้วซึ่งแน่นอนว่า พื้นฐานของการที่จะมาเป็นผู้ดูแลหรือผู้ที่จะฝึกสอนคนอื่นๆ ได้นั้นจะต้องมีความรู้และความรักที่มอบให้กับผู้อื่นเพราะแน่นอนว่า การที่เราจะดูแลหรือฝีกสอนใครสักคนนั้นมันต้องใช้ทั้งความพยายามและความอดทนอย่างมากเลยก็ว่าได้ และวันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระก็เลยอยากจะเอาเรื่องราวของคุณเจอร์รี วินเดิล ซึ่งเป็นชายโสดที่มีคนบอกเสมอว่าเขาจะไม่มีวันเป็นพ่อคนได้เพียงเพราะเค้าชอบผู้ชายเหมือนกันเท่านั้น ซึ่งตอนแรกตัวเขาเองก็อาจจะไม่ได้เคยคิดถึงเรื่องราวเหล่านี้และอาจจะแทบไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นพ่อได้ แต่วันหนึ่งชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เส้นของการเป็นพ่อของเขาเกิดขึ้นอย่างกับภาพฝันดูราวกับเทพนิยาย ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้ง่ายเลย

และจากเรื่องราวที่เราได้อ่านมานั้นก็ทำให้เรายิ่งมั่นใจมากขึ้นไปอีกว่าความรักและการทุ่มเทเลือกสรรคือสิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้เพื่อใครสักคนอย่างแน่นอน

มาฟังเรื่องราวของเค้ากันเลยดีกว่านะคุณเจอร์รี วินเดิล (Jerry Windle) ที่เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งมีความรักและสิ่งที่อย่างทำมากมากนั้นก็คือเค้าอยากเป็นพ่อแต่ด้วยหลายหลายสิ่งที่เค้าเป็นทำให้เขาประสบปัญหาในการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมในสหรัฐอเมริกา แต่แล้ววันหนึ่งเขาได้เห็นเรื่องราวในนิตยสารที่บรรยายถึงชีวิตของเด็กไร้บ้านในอีกซีกโลกหนึ่ง และตอนนั้นเองที่เขาตัดสินใจอย่างไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะติดต่อเจ้าหน้าที่ของที่นั้น และในไม่ช้าเขาก็ได้รับข่าวที่ดีที่สุดที่เค้าคาดหวัง
© jordanpiseywindle
และนั้นก็คือวันหนึ่งในเดือนมิถุนายนปี 2000 วันที่เค้าได้รับรู้ว่าเค้าได้รับสิทธิ์ในการดูแลเด็กไร้บ้านคนหนึ่ง ซึ่งเจอร์รี่ไม่รอช้าและรีบไปที่พนมเปญ ซึ่งจอร์แดนลูกชายในอนาคตของเขาอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนั้นตั้งแต่พ่อแม่ของเขาได้จากไป ซึ่งตอนนั้นหลายหลายอย่างทั้งสภาพแวดล้อมและการทานอาหารทำให้จอร์แดนมีหลากหลายปัญหา

แต่นั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่เลยสำหรับเจอร์รี เพราะเค้าเพียงแต่ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่มีรวมถึงความรักที่เค้ามีให้ด้วยนั้นเองในการดูแลรักษาจอร์แดน
© jordanpiseywindle
แต่ถึงกระนั้นก็ตามมันก็ไม่ได้ง่ายเลยที่จะเริ่มการดูแลใครสักคนที่เราไม่สามารถสื่อสารหรือพูดคุยด้วยได้ เพราะตอนนั้นทั้งคู่ต่างใช้ภาษาคนละภาษานั้นเองทำให้ต้องใช้ภาษามือและท่าทางในการสื่อสารแทน
© jordanpiseywindle
และใครจะเชื่อว่าจากเด็กน้อยที่แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงในการดูแลตัวเองในวันนั้นจะเติบโตแข็งแรงมากขึ้นถึงขนาดที่ว่าเป็นนักกีฬาโอลิมปิกได้

เส้นทางของอาชีพโอลิมปิกอันยิ่งใหญ่เริ่มต้นโดยบังเอิญ
© jordanpiseywindle
เป็นเรื่องที่ไม่เคยอยู่ในความคิดของเจอร์รีและจอร์แดนเลยก็ว่า แต่วันหนึ่งความฝันโอลิมปิกของจอร์แดนก็ถูกสะกิดให้เริ่มต้นขึ้นในตอนที่เค้าอายุ 7 ขวบ วันนั้นเขาได้รับความสนใจจากทิม โอไบรอัน ลูกชายของรอน โอไบรอัน ซึ่งเป็นโค้ชสอนดำน้ำชื่อดังที่ค่ายดำน้ำ จากนั้นจอร์แดนก็เข้าร่วมโปรแกรมดำน้ำพิเศษและเริ่มแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความสำเร็จครั้งแรกของเขา

© Instagram
แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะเดินบนเส้นทางนี้เพราะเค้าเองต้องใช้ทั้งเวลาและความทุ่มเทให้กับการดำน้ำ เรียกได้ว่าหายใจเข้าออกเป็นการดำน้ำเลยก็ว่าได้ ซึ่งนั้นก็ใช้เวลาไปเกือบ 10 ปีกว่าจะถึงวันที่จอร์แดนได้ลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

© jordanpiseywindle
และนอกเหนือจากนั้นพ่อและลูกชายคนเก่งของเรายัง ส่งต่อเรื่องราวของพวกเขาด้วยการเขียนหนังสือสำหรับเด็ก ด้วยหนังสือที่มีชื่อว่า An Orphan No More: The True Story of a Boy ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของพวกเค้าผ่านตัวละครของไก่ตัวหนึ่งที่อยากเป็นพ่อทั้งที่ไม่มีแม่ไก่ และอยู่มาวันหนึ่งเขาสะดุดกับไข่ที่ไม่มีใครต้องการ และเมื่อดูแลอย่างดีสิ่งที่ฟักออกมาคือลูกเป็ด ซึ่งถึงแม้จะหน้าตาต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็พิสูจน์ได้ว่า “ที่ใดมีความรัก ที่นั่นคือครอบครัว”

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ