6 เรื่องสั้นจากเหล่าศิษย์ที่ยังคิดถึงคุณครูเสมอ

552

วันนี้พวกเราชาวสัพเพเหระอยากจะมากล่าวถึงเรื่องราวดีดีจากเพื่อนเพื่อนที่เป็นเหมือนแรงบัลดาลใจเล็กที่ทำให้หลายหลายคนเติบโตและก้าวเดินมาได้ถึงทุกวันนี้ใช่แล้วละวันนี้เราจะมาพูดถึงคุณครูของเรานี้แหละซึ่งคิดว่าเพื่อนเพื่อนยังไงก็คงจะต้องมีคุณครูสักคนให้คิดถึงกันบ้างแหละเพราะอย่างน้อยเราก็ได้วิชาความรู้และบางท่านก็สอนและให้อะไรบางอย่างที่มากกว่าที่เราคิดอีกเยอะเลยนะ

พลังจากการมีคนที่เชื่อมั่น
เราอยากจะบอกขอบคุณบุคคลท่านหนึ่งที่ถือเป็นหนึ่งในคนที่ช่วยทำให้เรามีทุกวันนี้ได้นั้นก็คือคุณครูสอนภาษาอังกฤษและวรรณคดีของเรานั้นเองตอนที่เราพบกันท่านเพิ่งเริ่มสอนมาสอนได้ไม่นานตอนนั้นคณุอายุเพียง 22 ปีมันเป็นธรรมดาที่อะไรที่เพิ่งเริ่มต้นจะยังไม่คงที่ ในตอนนั้นเธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้การเรียนออกมาสนุกสนาน ซึ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่หลายหลายคนชอบมากมากแต่สิ่งที่ทำให้เธอเป็นครูที่ทำให้เราไม่มีวันลืมเลยนั้นก็คือ ในวันเกิดของนักเรียนทุกคน เธอจะมอบสมุดโน้ตขนาดเล็ก แม้ว่ามันเป็นเพียงสมุดบันทึกเล็กๆ ที่หาได้ทั่วไปแต่สิ่งที่เธอมอบให้มันมากกว่านั้นเพราะครูจะเขียนข้อความลงไปที่หน้าแรกเพื่อบอกว่า พวกเราเป็นนักเรียนที่เธอชอบมากแค่ไหน และบอกถึงความรู้สึกของครูว่าพวกเราจะไปได้ไกลแค่ไหนสำหรับบางคนมันอาจจะดูธรรมดามากมากแต่สำหรับเด็กอายุ 13 ปีอย่างเราตอนนั้นมันสร้างความรู้สึกมั่นใจในการเรียนของเราอย่างมากทุกครั้งที่เรารู้สึกเหมือนกับกำลังจะหมดแรงพอได้มาอ่านข้อความในโน็ตเล่มนี้ก็จะมีแรงฮึดเพราะเรารู้สึกว่ายังมีคนที่ค่อยให้กำลังใจและเชื่อมั่นว่าเราจะทำสิ่งดีดีและสร้างสรรค์โอกาสให้กับตัวเราเองได้เสมอ “ขอบคุณคุณครูที่เชื่อมันในตัวลูกศิษย์อย่างเรา”

แบบอย่างที่ดี
ตอนที่เราเรียนอยู่ชั้นประถมตอนนั้นอะไรมันก็ดูเป็นเรื่องเป็นราวไปหมดทุกสิ่งรอบตัวเหมือนกับมาเพื่อนสร้างความไม่มั่นใจให้กับเราเลย และมีอยู่ครั้งหนึ่งคุณแม่ตัดผมหน้าม้าให้เราแต่กลายเป็นว่ามันออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่และพอไปถึงที่โรงเรียนก็กลายเป็นว่ามีเพื่อนในห้องบางคนเข้ามาแซวเราเรื่องผมซึ่งเราไม่รู้จะทำอย่างไรก็ทำได้แต่วิ่งไปหลบอยู่ในห้องน้ำเท่านั้นเอง ระหว่างที่เราไม่อยู่กลายเป็นว่าตอนที่เราวิ่งออกมานั้นคุณครูใหญ่เห็นเข้าพอดีแล้วก็เข้าไปถามเด็กๆคนอื่นๆที่อยู่ในห้องถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และท้ายที่สุดครูก็มาพาเรากลับเข้าไปในห้องเรียนและบอกกับเราว่าเราต้องมีความมั่นใจไม่ต้องไปหวั่นไหวกับเสียงที่เราไม่ชอบ และมันก็ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะเช้าวันต่อมาคุณครูใหญ่ขึ้นไปพูดหน้าเสาธงโดยตัดผมตัวเองสั้นเกรียนเลยแล้วบอกกับเด็กๆคนอื่นๆว่า “ทรงผมมันก็มีสั้นมียาวบางครั้งก็ตัดไม่สวยได้ซึ่งก็ได้และไม่นานผมมันก็ยาวขึ้นมาเองแล้ว” ดังนั้นเราไม่ควรแซวกันเรื่องนี้อีกซึ่งนั้นก็ทำให้ปลื้มครูมากมาก เพราะนอกจากจะให้กำลังใจเราแล้วท่านยังพยายามไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกด้วย คิดรอบด้านจริงๆเลยนะคุณครู

นอกเวลาเรียน
หลังหนึ่งตอนที่เรายังซนอยู่บังเอิญเราขับจักรยานแล้วไปล้มทำให้ต้องหยุดเรียนถึงสองสัปดาห์เพราะเดินทางลำบาก ซึ้งตอนนั้นใก้ลสอบแล้วเราก็เกรงว่าจะเรียนไม่ทันเพื่อนแต่แล้วกลายเป็นว่าทุกๆเย็นคุณครูประจำชั้นของเราจะแวะมาหาเราและเอาโน๊ตย่อของวิชาต่างๆ ที่เรียนในแต่ละวันมาสอนเราแบบสั้นๆเกือบสองชั่วโมงทุกวัน เราถามครูว่ามาสอนเราที่บ้านทำไมทั้งๆที่มันไม่ใช่เวลาทำงานแล้วก็ไม่ใช่ทางผ่านด้วยซ้ำไปแต่คุณครูก็ตอบกลับมาว่า นอกเวลาเรียนครูก็ยังเป็นครูอยู่ดังนั้นการมาดูแลนักเรียนสักคนมันจะแปลกอะไร กลายเป็นว่าเทอมนั้นเราทำคะแนนได้ดีเพราะมีครูมาสอนตอนเย็นอีกทั้งช่วงที่อยู่ที่บ้านตอนกลางวันเราก็ขยันทบทวนเรื่องที่ครูมาสอนเพราะเราอยากทำให้คุณครูได้เห็นว่าสิ่งที่ท่านทำให้เรานั้นมันได้ผลดีขนาดไหน

อาหารกลางวัน
ตอนที่เรายังเด็กอยู่ทางบ้านของเราฐานะไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่แต่ทางบ้านก็พยายามเต็มที่ที่จะส่งเราเรียนให้ได้แต่มันก็มีบ้างบางครั้งที่เราไม่มีพอแม้แต่จะทานอาหารกลางวันที่โรงเรียนนั้นทำให้บางวันเราไม่ได้เข้าไปทานอาหารที่โรงอาหารแต่จะออกมานั่งอ่านหนังสือที่สวนข้างๆแทนในระหว่างช่วงพักกลางวัน จู่ๆวันหนึ่งคุณครูประจำชั้นของเราก็เดินมานั่งข้างๆเราพร้อมกับถามเราว่าอ่านหนังสืออะไรอยู่ เราตอบกลับไปและก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแต่แล้วคุณครูกลับยื่นกล่องอาหารเล็กๆมาให้เราพร้อมทั้งบอกเราว่า “ว่างหนังสือลงก่อนแล้วมาทานอาหารเป็นเพื่อนครูได้ไหม” นั้นคืออาหารเที่ยงที่ครูเตรียมมาเองและแบ่งให้เราทานครึ่งหนึ่งถึงมันจะไม่ได้ทำจากร้านหรูแต่มันก็มีรสชาติของความรักที่ครูมอบให้เรา ทุกวันนี้เรายังคิดเสมอว่าไม่มีอาหารมื้อไหนที่ทำให้เราอิ่มใจได้เหมือนมื้อนั้นเลย

ใครใครก็ทำผิดกันได้
ในการเรียนตอนชั้นมหาวิทยาลัยในวิชาหนึ่งที่เราหยิบยกเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพื่อมาวิเคราะห์กันเพื่อเป็นคะแนนสะสม มีเพื่อนของเรานำเสนอแนวความคิดซึ่งมันก็ฟังดูแปลกๆสักหน่อยและพออาจารย์ได้ฟังก็บอกว่ามันฟังดูแปลกและให้คะแนนเพียงแค่นิดหน่อยซึ่งพวกเราก็ไม่ได้คิดอะไรจนกระทั้งคาบต่อมาก่อนที่อาจารย์จะเริ่มสอนท่านกล่าวย้อนกลับไปถึงเรื่องในวันนั้นและบอกว่าขอแก้คะแนนของเพื่อนคนนั้นให้สูงขึ้นโดยให้เหตุผลว่าครั้งก่อนท่านตัดสินโดยใช้เพียงแค่ความรู้สึกส่วนตัวที่ได้ฟังในขณะนั้นเท่านั้น ซึ่งอันที่จริงแล้วการวิเคราะห์หลักการต่างๆถึงแม้มันจะฟังดูแปลกแต่ก็ถือเป็นจินตนาการและความคิดที่ไม่ควรถูกมองข้าม ที่เราประทับใจก็คืออาจารย์กล้าที่จะยอมรับว่าตัวเองก็ทำพลาดไปและกลับมาแก้ไขให้มันถูกต้องด้วย ตอนนี้เราได้สิ่งที่ดีที่สุดที่สอนเราจากการกระทำครั้งนี้ของอาจารย์แล้ว

เราเลือกเอง
เราชอบการสอนของอาจารย์ศิลปะท่าหนึ่งมากมาก ท่านไม่เคยบอกให้เราวาดหรือเขียนสิ่งต่างเลยเพียงแต่ว่าในแต่ละคาบเรียนท่านจะเข้ามาแล้วสอนถึงการใช้สีและพูดถึงการหัดลากเส้นรวมไปถึงการใช้เทคนิคต่างๆในการวาดภาพซึ่งแน่นอนว่า ในแต่ละคาบที่จบลงพวกเราก็จะได้ภาพวาดระบายสีไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนเลยสักครั้ง แต่ตอนสอบวาดภาพครั้งสุดท้ายนี้สิยิ่งทำให้เรางงขึ้นไปอีกอาจารย์เข้ามาพร้อมกับบอกว่ามีเวลาให้หนึ่งสัปดาห์ให้แต่ละคนวาดภาพในหัวข้อ “สิ่งที่ชอบ” มาส่งและในวันที่ส่งงานก็เรียกนักเรียนเข้าไปที่ละคนและพอมาถึงตอนที่เราเข้าไปเราก็มองเห็นภาพของเราและเกรด “C” เขียนอยู่บนมุมภาพของเราครูหันมาแล้วก็บอกกับเราว่าให้อธิบายว่ารูปที่เราวาดมานั้นมีความหมายถึงสิ่งที่ชอบอย่างไร ซึ่งเราก็พูดไปตามท่ีเราคิดและหลังจากนั้นครูก็หันมาถามเราว่าเราจะให้คะแนนผลงานชิ้นนี้สักเท่าไหร่ซึ่งเราตอบไปว่ามันควรจะได้ A เพราะเราตั้งใจทำมันเต็มที่และเราก็ชอบมันมาก หลังจากนั้นครูก็หยิบปากกาขึ้นมาเขียนไปที่มุมกระดาษขีดตัวซีทิ้งไปแล้วให้ A แล้วก็บอกเราว่า “สิ่งที่เราคิดและทำตามความตั้งใจมันมีค่าเสมอดังนั้นอย่าหวั่นไหวกับการให้ค่าของคนอื่นที่มองเข้ามาแต่จงให้คุณค่ากับสิ่งที่เราทำ”

ครูชนะ
ในปีแรกของชั้นมัธยมปลาย เพื่อนๆในห้องตั้งใจจะเล่นตลกกับครูสอนภาษาอังกฤษโดยทุกคนจะหัวเราะเมื่อเขาหันหน้าเข้ากระดาน แล้วเราหยุดทุกครั้งที่เขาหันมาหาเรา หลังจากนั้นไม่กี่นาที เขาก็ออกจากห้องเรียนไปโดยไม่พูดอะไร เราทุกคนนั่งสับสนจนกระทั่งไม่กี่นาทีต่อมาผู้ช่วยครูใหญ่เข้ามาและอธิบายว่าเราทำให้ครูโกรธมากและเดินจากไป ทั้งห้องเงียบสนิทอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเริ่มมีบางคนลุกขึ้นและบอกว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อนขอโทษคุณครูแล้วเพราะเกรงว่าอาจจะถูกทางโรงเรียนทำอะไรสักอย่าง แล้วจู่ๆครูสอนภาษาอังกฤษก็เดินกลับเข้ามาพร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้มและบอกว่าครั้งนี้ครูชนะนะ ที่แท้ครูก็ไปบอกให้ครูผู้ช่วยมาแสดงละครเพื่อทำให้พวกเรากังวลนั้นเอง เป็นการเอาคืนเล็กที่ได้ผลหลังจากนั้นพวกเราก็สนิทกับคุณครูมากมากเลยและยังคงกลับไปหาเสมอหลังจากที่เรียนจบมาแล้ว

ขอบคุณเพื่อนเพื่อนทุกคนที่ส่งเรื่องราวดีดีเข้ามาให้พวกเราได้อ่านกันและเรื่องราวของคุณครูเหล่านี้ก็ทำให้เรารู้สึกคิดถึงวันเวลาเก่าๆที่เรายังนังเรียนหนังสือและได้สนุกสนานไปกับเพื่อนเพื่อนในวัยเรียนช่างเป็นความทรงจำเก่าๆที่น่าจดจำและทำให้ยิ้มได้ทุกครั้งที่ระลึกถึงเลยแล้วคุณละมีเรื่องราวดีดีแบบนี้ที่อยากจะส่งต่อให้เพื่อนเพื่อนได้อ่านกันบ้างหรือเปล่าคุณสามารถส่งมันเข้ามาที่เพจของเราได้เลยนะ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจากเพื่อนเพื่อน — เรียบเรียงโดย สัพเพเหระ